Haworthia
Source: https://www.facebook.com/129424437079339/posts/1689708254384275?s=100000283618495&sfns=mo
วัสดุปลูก
1.ดินกระบองเพชร : หินภูเขาไฟเบอร์ 00 อัตราส่วน 1:1
2.ดินอาคาดามะ : หินภูเขาไฟเบอร์00 : พีทมอส อัตราส่วน 1:1:1
3.ดินใบก้ามปูร่อน : หินภูเขาไฟเบอร์00 : เพอร์ไลท์ : เวอร์มิคูลไลท์ 2:1:1:1
การรดน้ำ
- วิธีที่ 1 รดน้ำทุก 3-5 วันครั้ง ในฤดูร้อนและฤดูหนาว 3 วันครั้ง และ ฤดูฝน 5 วันครั้ง สามารถพรมน้ำ โดยใช้ฟอคกี้ หรือ สายยาง เพื่อเพิ่มความชื้น แต่ควรรดในเวลาเช้าเท่านั้น รดในเวลากลางคืนอาจจะทำให้เน่าได้ง่าย
- วิธีที่ 2 Dip การจุ่มกระถาง จุ่มกระถางลงในภาชนะที่ใส่น้ำไว้ ทิ้งไว้ 2-3 นาที แล้วยกขึ้น วิธีนี้เหมาะสำหรับปลูกในอาคาร บ้าน คอนโด จำนวนไม้ไม่เยอะมากนัก ช่วยป้องกันการเน่าได้
- วิธีที่ 3 flood and drain การใช้ถาดใส่น้ำแล้วให้พืชดูดน้ำขึ้นไปใช้เอง ทิ้งระยะให้ flood ประมาณ 5 นาที และ drain คือการปล่อยน้ำออก ภาชนะควรมีลักษณะเป็นถาดสามารถเก็บน้ำได้
การให้ปุ๋ย
ปุ๋ย สำหรับไม้กลุ่มนี้แนะนำเป็นปุ๋ยออสโมโค้ท ทุกปี ปีละ 1 ครั้ง และเสริมด้วยปุ๋ยเกร็ดฉีดพ่นทางใบ สามาถฉีดได้พร้อมกับน้ำยาเร่งราก ยาฆ่าเชื้อรา และ ยาฆ่าแมลง ควรฉีดพ่นช่วงเวลาเย็นหรือค่ำ และใช้เจือจาง เนื่องจากไม้กลุ่มนี้เป็นพืช CAM ซึ่งจะเปิดปากใบตรึงคาร์บอนไดออกไซค์ น้ำและอาหารในเวลากลางคืนเท่านั้น
โรคและแมลง
โรค : ส่วนใหญ่โรคที่พบจะเป็นเพลี้ยหอย โรคเน่าคอดินและโรคที่เกิดจากแบคทีเรีย(ลักษณะต้นจะฉ่ำน้ำและมีกลิ่นเหม็น)
แมลง : ยาที่ใช้แนะนำประเภทดูดซึม เช่น มาลาไทออน หรือสตาร์เกิ้ลจี มาลาไทออนฉีดพ่นเพื่อป้องกัน เดือนละ 1 ครั้ง สตาร์เกิ้ลจี ใช้ผสมวัสดุปลูก ให้ได้ผลดีที่สุดควรโรยที่โคนต้นแล้วเอาดินกลบ ไม่ควรโรยข้างหน้า เนื่องจากสารสำคัญจะสลายในที่ที่มีแสง
แสง
ฮาโวเทียแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม
- กลุ่มแรก กลุ่มใบแข็ง เช่น attenuate ,limifolia , fasciata, reinwardtii และ pumila เป็นต้น กลุ่มนี้ชอบแดด 80-100%
สามารถทนแดด ทนได้ดี - กลุ่มที่สอง กลุ่มใบอ่อน เช่น cooperi, turgida, retusa, และ obtusa กลุ่มนี้ชอบแสงรำไร 50-80% ไม่ชอบฝน และ แดดแรง
กระถาง
กระถางสำหรับฮาโวเทียนั้นสามารถใช้กระถางพลาสติก หรือ กระถางดินเผาก็ได้ ทั้งนี้ขึ้นกับชนิดพันธุ์และสภาพแวดล้อม เช่น
- กลุ่มใบแข็ง ชอบกระถางทรงชาม ทรงตื้นปากกว้าง เพราะพวกนี้สามารถขยายพันธุ์ได้ด้วยการแตกไหล
- กลุ่มใบอ่อน ใช้กระถางปากแคบ ทรงสูง เพราะพวกนี้ระบบรากจะลึกและสร้างรากเก็บอาการไว้ใต้ดิน
การขยายพันธุ์ฮาโวเทีย
1.การเพาะเมล็ด การผสมเกสรทำให้เกิดพันธุ์ใหม่ๆซึ่งมีลักษณะใหม่ๆที่น่าสนใจ ได้ลูกไม้จำนวนมาก แต่ใช้เวลานาน
2.การปาดยอด เป็นวิธีการขยายพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศ ทำให้ได้หน่อจำนวนมาก และทำให้ต้นไม้ไม่เสียทรง
3.การผ่าครึ่งต้น วิธีนี้นิยมใช้ในต่างประเทศแต่ไม่นิยมใช้ในบ้านเรา เพราะเกิดการเน่าได้ง่าย ฤดูที่ควรทำคือฤดูหนาว
4.การชำรากหรือไหล ฮาโวเทียบางชนิด สามารถชำรากได้ เช่น Truncata ,limifolis, tesellata และ viscosa เป็นต้น
5.การแยกหน่อ ใช้เวลานานบางสายพันธุ์ไม่ยอมแตกหน่อก็ไม่เหมาะกับวิธีการนี้ บางสายพันธุ์เช่น mucronata , turgida ใช้เวลาเพียง 6-8 เดือน ก็ได้หน่อจำนวนมาก
6.การเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ ก็สามารถนำมาใช้ขยายพันธุ์พืชกลุ่มนี้ได้ ทำให้ได้จำนวนมากในระยะเวลาอันสั้น
Source: https://www.facebook.com/129424437079339/posts/1689708254384275?s=100000283618495&sfns=mo