Thursday, September 12, 2024
More

    Lifestyle Inflation – เงินเดือนยิ่งเยอะ ยิ่งไม่มีเงินเก็บ

    -

    Source: Lifestyle Inflation Definition (investopedia.com)


    Lifestyle แปลว่า รูปแบบการดำเนินชีวิต ส่วน Inflation แปลว่า เงินเฟ้อ หรือ การสูงขึ้นอย่างผิดปกติ

    https://media.licdn.com/dms/image/C5612AQGnFWxibS1bWw/article-cover_image-shrink_720_1280/0/1632874366188?e=2147483647&v=beta&t=nxZVxoBm2H1NlHuY0wEd1wBhRozkX8oIBESqUkowHtQ

    Lifestyle Inflation หมายถึง การที่เราได้รับเงินเดือนที่มากขึ้น ไม่ว่าจากการเลื่อนตำแหน่ง รายได้มากขึ้น แต่ก็มีภาระการใช้จ่ายที่มากขึ้นด้วยเป็นเงาตามตัว จึงส่งผลให้รายรับ-รายจ่ายในแต่ละเดือนเป็นไปอย่างพอดี ไม่เหลือ หรือเหลือเงินเก็บได้น้อยมาก

    เนื่องมาจาก เมื่อมีรายได้มากขึ้น แต่การซื้อ การใช้จ่าย การเพิ่มคุณภาพชีวิตทางด้านวัตถุ ไม่ว่าจะเป็น การเปลี่ยนรถใหม่ การซื้อบ้านใหม่ การกินเที่ยวที่ดีขึ้น หรูหรามากขึ้น เพื่อให้ชีวิตมีความสุขมากขึ้น บางคนซื้อบ้านใหม่เพื่อครอบครัว บางคนก็ทำไปเพื่อหน้าตา ฐานะ และสังคม

    เมื่อมีการดำเนินชีวิตดังที่ได้กล่าวมา จึงอาจทำให้ใช้เงินเดือนชนเดือน ถึงแม้ว่าจะมีรายได้มากก็ตาม


    การหลีกเลี่ยง Lifestyle Inflation

    Lifestyle Inflation อาจทำให้เงินเก็บน้อยหรือแทบไม่มีเลยที่จะไว้ใช้ในเหตุจำเป็น เช่นค่ารักษาพยาบาล หรือเวลาตกงาน เป็นต้น

    https://images.financebuzz.com/696×400/filters:quality(70)/images/2019/07/23/why-saving-is-important.jpg

    ทางเลือกในการหลีกเลี่ยง Lifestyle Inflation ก็คือ

    1. การเก็บเงินให้มากขึ้นกว่าเดิม หรือ เก็บตามอัตราส่วนเท่าเดิม (20 หรือ 30% ของรายได้ เป็นต้น)
      โดยปกติแล้วหลายๆคนก็อาจจะออกเงินจำนวนหนึ่งทุกๆเดือนอยู่แล้ว แต่เมื่อมีรายได้มากขึ้นแต่ก็ยังออกเงินเท่าเดิมอยู่ และนำรายได้ที่ได้มามากขึ้นไปใช้จ่ายในกรณ๊ต่างๆมากขึ้น
      การทำเข่นนี้หมายความว่า เราได้เพิ่มคุณภาพชีวิตขึ้นกว่าแต่ก่อน สิ่งของหรือบริการที่เป็นรายจ่ายที่เพิ่มมากขึ้นของเรานั้นจะกลายเป็นภาระที่มากขึ้น ทบไปทุกๆเดือน แต่เมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝันใดๆก็ตามเช่นเจ็บป่วยหรืออุบัติเหตุ ภาระรายจ่ายในทุกเดือนๆยังคงอยู่แต่เรามีรายจ่ายมากขึ้นจากการเจ็บป่วยหรือรักษาตัวจากอุบัติเหตุ ถ้ามีเงินเก็บไม่เพียงพอก็อาจจะกระทบชีวิตได้

      ดังนั้นเราควรเก็บออมเงินให้มากขึ้นเมื่อรายได้มากขึ้น หรือเก็บเงินตามอัตราส่วนของเงินเดือน การทำเช่นนี้ ถึงแม้ว่าเราจะมีรายจ่ายมากขึ้นแต่ก็ยังได้ออมเงินได้มาขึ้นด้วย
    2. ใช้เงินอย่างมีสติให้มากขึ้น

    เมื่อเรามีรายได้มากขึ้น เราก็อยากจะมีความสุขมากขึ้น จับจ่ายซื้อของเพื่อความสุขตัวเอง เพราะอาจจะตอบแทนจากการทำงานหนักที่ผ่านมา หรือ ทำตามความต้องการในอดีตที่เคยวาดฝันไว้ โดยลืมนึกถึงความจำเป็นของการจับจ่ายนั้นๆได้


    เมื่อทำเช่นนี้ไปเรื่อยๆ การจับจ่ายใช้สอยที่มากขึ้นของเราอาจกลายเป็นนิสัยโดยไม่รู้ตัว และอาจเพิ่มพูนมากขึ้นไปเรื่อยๆ จนยากที่จะลดละปล่อยวางในวัตถุได้


    พุทธศาสนากับการประหยัด

    สรรพสิ่งในโลกนี้เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป เกิดความเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา

    แม้แต่ความอยาก ความต้องการของเราเอง ก็เกิดขึ้น ดับไป เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเข่นกัน

    อะไรที่เราอยากได้มากๆ เมื่อได้มาแล้วก็อาจจะเกิดความรู้สึกเฉยๆ ไม่ได้อยากได้ ไม่ชอบเหมือนเดิมอีกแล้ว และเกิดความอยากในสิ่งอื่นๆต่อไปเรื่อยๆ กิเลสตัณหาก็เกิดขึ้นได้อีกถึงแม้ว่าจะได้ของที่เราต้องการครอบครองก็ตาม

    ในสิ่งที่เราอยากได้มากๆ แต่ไม่สามารถครอบครองได้ ก็จะเกิดเป็นความทุกข์ อยากได้ อยากมีเช่นคนอื่นๆ โดยลืมมองสิ่งที่ตัวเองมีอยู่ หรือไปเปรียบเทียบกับคนที่เหนือกว่า ลืมมองคนที่ยากลำบากกว่า

    ความไม่แน่นอนเป็นธรรมดาของโลกนี้ ดังนั้นจึงควรประหยัดให้มากขึ้นตามรายได้มากขึ้น หรือใช้เงินอย่างมีสติก็จะข่วยหลีกเลี่ยง Lifestyle Inflation ได้มาก


    FOLLOW US

    0FansLike
    3,912FollowersFollow
    0SubscribersSubscribe
    spot_img

    Related Stories