Happiness

คำถามเดียวกัน แต่ต่างคำตอบ ต่างภพภูมิ ต่างวาระ​ต่างบารมี ต่างความคิด​ ต่างการกระทำ ต่างจุดมุ่งหมาย "ถ้าได้เกิดเป็นมนุษย์อยากจะทำอะไร" #เทวดา ตอบว่า "เราจะพิจารณาธรรม เพราะมนุษย์มีกายสังขาร ที่เหมาะกับการพิจารณาธรรมมาก ร่างกายของมนุษย์เป็นเครื่องมือที่ใช้พิจารณาธรรมได้ดีที่สุด น่าอิจฉาพวกมนุษย์จริงๆ" #พญานาค ตอบว่า "บวชสิ ถ้าได้เกิดเป็นมนุษย์ เราจะบวช... เป็นพญานาคมีฤทธิ์มากก็จริง แต่บวชไม่ได้ พ้นทุกข์ไม่ได้ ไม่เหมือนมนุษย์พระพุทธเจ้าไม่อนุญาตให้นาคบวช แต่มนุษย์บวชได้ มนุษย์สร้างบุญใหญ่ไปสวรรค์ชั้นสูง ไปแดนนิพพานได้ แสนประเสริฐ" #พระภูมิเจ้าที่ ตอบว่า "ถ้าได้เกิดเป็นมนุษย์อีกครั้ง คราวนี้เราจะไปทำบุญใส่บาตรทุกวัน ไม่ต้องมานั่งรอคนอุทิศส่วนกุศลมาให้เราอีก ไปทำเองเลยเพิ่มบารมีได้เร็วทันใจดี" #สัตว์เดรัจฉาน ตอบว่า "ถ้าได้เกิดเป็นมนุษย์ เราจะสงเคราะห์สัตว์ตัวอื่นๆ เป็นสัตว์นั้นทุกข์มาก พูดก็ไม่ได้ คิดอะไรฉลาดๆ​ ก็ไม่ได้​ เป็นมนุษย์มีสมองมีปัญญา เราจะใช้ปัญญาของมนุษย์ทำให้ตัวเองไม่ต้องมาเป็นสัตว์อีก" #เปรต ตอบว่า "เราไม่อยากมีหน้าตาน่าเกลียด ไม่อยากมีปากเท่ารูเข็ม มีรูปร่างสูงเหมือนต้นตาล​ ถ้าได้เกิดเป็นมนุษย์ เราจะถือศีล จะได้ไม่ต้องมาเป็นเปรตผู้หิวโหย อดๆ อยากๆ ทนทุกข์ทรมานแบบนี้" #สัตว์นรกในอเวจี ตอบว่า "ถ้าได้เกิดเป็นมนุษย์ เราจะทำความดี จะไม่ผิด​ศีล​ 5 อีก จะปฏิบัติธรรม เพราะนรกมันร้อนมันโหดร้าย อยู่แล้วมีแต่ความเจ็บปวด ทุรนทุราย ถ้าข้ามีโอกาสอีกครั้ง เราจะไม่ทำเลว เราไม่อยากทรมาน ไม่อยากได้ชื่อว่าเป็นสัตว์นรกอีก" แต่... เมื่อถามคำถามเดียวกัน มนุษย์ตอบว่า "อยากสมหวังรัก,​ อยากรวย,​ อยากมีตำแหน่งสูง,​ อยากมีอำนาจ แม้ต้องผิดศีล ทำร้ายใครก้อจะทำ" อนิจจาใครหนอ... น่าสงสารที่สุด! มนุษย์ผู้ที่อยากแต่ทรัพย์สมบัติภายนอกที่ยึดถือได้ชั่วคราว​ ทั้งที่มีโอกาสจะทำบุญกุศลมากกว่าเพื่อน ทำให้มีอริยทรัพย์คือ ทรัพย์อันประเสริฐเป็นของติดตัวไปทุกภพภูมิ อยู่ภายในใจ มี ๗ สิ่งคือ ศรัทธา ศีล หิริ โอตตัปปะ พาหุสัจจะ จาคะ ปัญญา

พระคาถานี้เป็นคาถาศักดิ์สิทธิ์ตกทอดมาจากลังกา ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯค้นพบในคัมภีร์โบราณและได้ดัดแปลงแต่งเติมให้ดีขึ้นเป็นเอกลักษณ์พิเศษ ผู้ใดสวดภาวนาพระคาถานี้เป็นประจำสม่ำเสมอจะทำให้เกิดความสิริมงคลแก่ตนเอง ศัตรูไม่กล้ากล้ำกราย มีเมตตามหานิยม ขจัดภัยตลอดจนคุณไสยต่างๆ เพื่อให้เกิดอานุภาพยิ่งขึ้น ก่อนเจริญภาวนาให้ตั้งนะโม ๓ จบ นึกถึงหลวงปู่โตแล้วตั้งอธิษฐานว่า คำภาวนาก่อนสวด ตั้งนะโม 3 จบ >>> ที่มาของบทสวด นะโม 3 จบ นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุท ธัสสะ นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต...

https://soundcloud.com/thestandardpodcast/hap-ep30 Source: https://soundcloud.com/thestandardpodcast/hap-ep30

https://soundcloud.com/thestandardpodcast/hap-ep21 Source: https://soundcloud.com/thestandardpodcast/hap-ep21

ศีลแปด หรือ อุโบสถศีล เป็นศีลของคฤหัสถ์ หมายถึง อุบาสกอุบาสิกาทั่วไป มิใช่สงฆ์ (ซึ่งมีศีลเฉพาะตนอยู่แล้ว) โดยมักจะรับศีลแปดในวันพระ นิยมรักษาศีลแปดเป็นเวลา 1 วัน หรือ 3 วัน จัดเป็นศีลขั้นต่ำของพระอนาคามี โดยปกติผู้รักษาศีลจะเปล่งวาจาอธิษฐาน ที่จะขอสมาทานศีลตั้งแต่เช้าของวันนั้น หากรักษาศีลแปดเป็นเวลา 1 วัน เรียกว่า "ปกติอุโบสถ" และหากรักษา 3 วัน เรียกว่า "ปฏิชาครอุโบสถ" ศีลทั้งแปด ปาณาติปาตา เวรมณี สิกฺขาปทํ สมาทิยามิ : เว้นจากการฆ่าสัตว์อทินฺนา...

โดย...เสน่ห์จันทน์ / ภาพ ณัฏฏ์ฐิติ อำไพวรรณ เชื่อว่าหลายๆ คนรู้สึกขนพองสยองเกล้า แต่ก็อดไม่ได้ที่จะตั้งตารอคอย“คนอวดผี”ทุกวันพุธ โดยเฉพาะขณะนี้มีเจ้าของวลี...“เขายืนมองคุณอยู่”“เขากำลังเดินเข้ามาแล้วค่ะ”“ตอนนี้เขาโกรธมาก”ฯลฯ อย่างเจน ญาณทิพย์ หรือ เจนจิรา เรียบร้อยเจริญ หญิงสาวผู้มีสัมผัสพิเศษ ซึ่งเป็นแขกรับเชิญในช่วงล่าท้าผี เรียกว่า การปรากฏบนหน้าจอของเธอไม่กี่สัปดาห์ ก็กระฉากเรตติ้งสุดๆ เลยทีเดียว ก่อนหน้านี้ เจน ญาณทิพย์ เป็นที่รู้จักกันในโลกไซเบอร์ในระดับหนึ่ง ในฐานะหญิงสาวผู้ถูกเลือกให้มีญาณพิเศษ มองเห็นกรรม รู้อดีต ส่องอนาคต ก่อนจะมาโด่งดังเป็นพลุชั่วข้ามคืน เมื่อรายการคนอวดผีเชื้อเชิญให้มาเป็นส่วนหนึ่งของรายการและตอนนี้ได้ออกหนังสือ“ภารกิจDeleteกรรม” เรื่องราวที่ถ่ายทอดในหนังสือเป็นอย่างไร เจน ญาณทิพย์ ดิฉันมีโอกาสเห็นกรรมของคนมากมาย ประสบการณ์จากการเปิดกรรม เห็นการเกิด แก่ เจ็บ ตาย ชีวิตที่ไม่ยั่งยืน หากผู้อื่นมีโอกาสรับรู้เรื่องราวต่างๆ ว่า กรรมนั้นมีจริง คงเกิดประโยชน์มากกว่าจะเก็บไว้รู้เพียงลำพัง ดิฉันถ่ายทอดเรื่องราวของผู้ที่มาเปิดกรรมกับดิฉัน มีข้อคิดให้รู้ว่ากรรมนั้นมีจริง และเตือนสติในการใช้ชีวิต รวมถึงการบรรเทากรรมให้บางลง และวิธีการสร้างกุศลอันจะนำความสงบสุขมาสู่ชีวิตและครอบครัว” มนุษย์เราสามารถDeleteกรรม ได้หรือ เจน ญาณทิพย์ ดิฉันพยายามบอกผู้ที่มาเปิดกรรมเสมอว่า ดิฉันไม่สามารถแก้กรรมหรือตัดกรรมให้ใครต่อใครได้ สิ่งที่ชี้แนะเป็นแค่เพียงการบอกให้สำนึกในกรรม ให้รู้ว่าเจ้ากรรมนายเวรผู้มีผลต่อชีวิตในปัจจุบันคือใคร การตัดกรรมซึ่งเราไม่ต้องชดใช้ผลกรรม มีอยู่ทางเดียวเท่านั้น คือ การหลุดพ้นจากวัฏฏสงสาร การเวียนว่ายตายเกิด ซึ่งก็คือ นิพพาน วิธีการที่ดิฉันแนะนำผู้อื่นเพื่อผ่อนหนักเป็นเบา ที่หลายคนเรียกว่า แก้กรรม บอกได้เลยว่า คนเราไม่มีทางแก้กรรมได้ แต่เรามีโอกาสสร้างกรรมใหม่ที่ดีได้ พระพุทธเจ้าตรัสว่า บุคคลทำกรรมเล็กน้อยอย่างเดียวกัน แต่บางคนกรรมส่งผลให้ไปสู่นรกบางคนได้รับผลในปัจจุบันเพียงเล็กน้อย ขึ้นอยู่กับการที่บุคคลอบรมกาย อบรมศีล อบรมจิต อบรมปัญญาหรือไม่” หน้าที่ตอนนี้แตกต่างกับหมอดูอย่างไร เจน ญาณทิพย์ ตอนนั้นมีความคิดว่า ไม่อยากดูหมอเลย ไม่อยากเป็นเหมือนหมอดูทั่วไป แต่เรามานั่งคิดอีกทีว่า สิ่งที่เรามีพรสวรรค์ ทำไมเราไม่ถ่ายทอดให้คนได้เชื่อเรื่องกฎแห่งกรรม มันเป็นเรื่องของการดูหมอ การดูดวง แต่เราจะบอกทุกคนเลยว่า การดูดวงไม่ใช่ทาง เราจะไม่ทำคนให้หลงกับการดู เราดูช่วยชี้กรรมเขา ถ้าเราไม่บอกเรื่องของกรรมคุณ คุณก็จะไม่ทำบุญหลงกับทางโลก ไม่ทำความดี แต่ถ้าเราชี้กรรมปุ๊บ คุณจะรู้สึกว่ารู้กรรมเราได้ไง เริ่มกลัวแล้ว เริ่มกลัวบาป แล้วก็เริ่มสร้างบุญคือ สวรรค์มอบสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้เรา เพื่อเราจะได้ชี้กรรมให้คนอื่น เพื่อให้เราบอกคนอื่นว่า เรื่องกรรมเนี่ยมีจริง คนก็จะได้เชื่อเรื่องกฎแห่งกรรม ไม่กล้าทำกรรมเพิ่ม ไม่กล้าสร้างกรรมใหม่” เรื่องพรรค์นี้มีเส้นแบ่งบางๆ ระหว่าง กรรม ธรรมมะ ความเชื่อ ความงมงาย เจน ญาณทิพย์ พูดถึงเรื่องเกี่ยวกับอิทธิฤทธิ์ การสักยันต์ อาบน้ำมนต์ มันเป็นความเชื่อ แต่ของเราจะไม่ให้คนหลงไปทางด้านนั้น วิธีการแก้กรรมของดิฉันเน้นในทางปฏิบัติแล้วได้ผลจริงกับตัวของคุณเอง โดยที่คุณลองทำเอง แล้วสิ่งที่ได้มันได้อะไรกลับมาบ้าง คุณทำแล้วคุณก็ได้ผลจริงๆ ลองทำดู แต่ว่าเรื่องของความเชื่อต้องใช้วิจารณญาณด้วย จะบอกให้ทุกคนเชื่อ มันคงจะยาก มันเป็นเรื่องของความคิดคน เหรียญยังมีสองด้านเลย” รู้สึกอย่างไรที่มองเห็นวิญญาณ เจน ญาณทิพย์ เรื่องของการเห็นวิญญาณ พิสูจน์ทางหลักวิทยาศาสตร์ไม่ได้ คือ จะบอกให้คนเห็นเหมือนเรายากนะ และเราเองก็ไม่ได้เห็นตลอด แต่รู้สึกยังไง ถามว่ากลัวไหม กลัวน่ะ แต่ดิฉันเห็นเนี่ยเหมือนให้รับรู้ว่าโลกหลังความตายมีจริงแน่นอนทุกคนเกิดมาต้องตายหมดต้องเป็นวิญญาณ แต่ที่วิญญาณเขาให้เห็น เพราะเขาไม่หลุดพ้น เขายังเวียนว่ายตายเกิด ยังเร่ร่อน” คนที่ไม่ได้ตั้งใจมาเปิดกรรม สามารถมองเห็นกรรมของเขาไหม เจน ญาณทิพย์ เราต้องได้รับอนุญาตจากคนนั้นก่อน อย่างตอนนี้ก็เห็นกรรมคุณแต่ถ้าคุณไม่อนุญาตเราก็ไม่บอกเพราะว่ามันติดกรรม เราไปทักคนสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้ เจ้ากรรมนายเวรเข้าไม่ยอมเราติดกรรมเลยนะ” แล้วคนมาให้เราเปิดกรรม แก้กรรม ต้องใช้เงินไหม เจน ญาณทิพย์ ไม่ต้องใช้เงินใช้ทอง การแก้กรรมของเราคือการทำบุญ และการทำบุญไม่จำเป็นต้องเสียเงิน แต่มีบุญอยู่อย่างเดียวที่ต้องเสีย ก็คือบุญจากการทำทาน เราต้องเสียสละทรัพย์ที่มีอยู่เพื่อไปซื้อสังฆทาน ปล่อยนกปล่อยปลา แต่มันมีบุญอีกหลายอย่างที่ไม่ต้องเสียทรัพย์ คือบุญจากการรักษาศีล การเจริญภาวนา บุญจากการอนุโมทนาบุญจากคนที่ทำความดีก็ได้ มีหลายวิธีมาก” มองเห็นกรรมของประเทศไทยไหม เจน ญาณทิพย์ ดิฉันไม่เคยดูดวงเมืองเลย พอคนเริ่มมาถามคำถามนี้ เลยเริ่มที่จะดูก็ลองนั่งสมาธิดู พอเรานั่งสมาธิดู เออมันมีเหตุการณ์ในอนาคตเกิดขึ้น อย่างอุทกภัยมันเป็นภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นแน่นอนไม่ช้าก็เร็ว ดังนั้นดิฉันก็บอกคนอย่าประมาทให้สร้างคุณงามความดี เป็นเกราะคุ้มกัน มันจะเกิดขึ้นต้องเกิด มันเกิดขึ้นตั้งอยู่แล้วก็ดับไป หลีกเลี่ยงไม่ได้ เราเห็นแค่ภาพว่าน้ำมันจะท่วม เราเห็นแค่น้ำจะท่วมหนักในหลายพื้นที่ และในอนาคตที่ดู คือ ภายในปีนี้ถึงปี 2560 จะมีน้ำท่วม ไฟไหม้ แผ่นดินไหว วาตภัย มีหมดค่ะ มันต้องเกิดขึ้นแน่นอน มันจะเกิดขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นเราสร้างเสบียงบุญไว้ดีที่สุด ไม่ประมาท” กรรมที่จะเกิดกับประเทศเราสามารถDeleteได้ไหม เจน ญาณทิพย์ คือกรรมที่เรากระทำในปัจจุบันดีลิตไม่ได้ แต่การไม่สร้างกรรมใหม่เพิ่ม ทำหนักให้เป็นเบาได้ ไม่เกิดแรงกรรม ไม่เกิดเจ้ากรรมนายเวร แต่ที่ทำมาในอดีตเกิดแน่นอน ภัยธรรมชาติตรงนี้ต้องเกิดแน่นอน ป้องกันได้นิดหน่อย เป็นดวงเมือง เป็นกรรมของประเทศที่เราต้องเผชิญ ในอดีตกาลประเทศเราเข่นฆ่าคน เหมือนเป็นกรรมของประเทศที่ทำร่วมกันมา เราหนีกฎแห่งกรรมไม่ได้ แต่การเกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไป อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด เราหนี้กรรมไม่ได้” ตอนนี้อายุ 30 แล้ว คิดอยากจะมีครอบครัวไหม เจน ญาณทิพย์ ไม่เคยคิดเลย คือ เรารู้กรรมตัวเอง เพราะว่าดิฉันเห็นความทุกข์มาตั้งแต่เด็ก คนมีครอบครัวแล้วทุกข์ เราไม่อยากมี แล้วเรารู้ว่าอดีตชาติของเราเคยผิดศีลข้อ 3 พอรู้อย่างนี้ ถ้าเราไปมีครอบครัวรับรองเลยว่า กรรมมันต้องเล่นงานเราแน่เลย” เวลาเราพบผู้ชายสักคน เราไม่รู้สึกชอบเหรอ เจน ญาณทิพย์ เราก็ไม่ใช่พระอิฐพระปูน ถามว่ามันเคยมีความรู้สึกอย่างนั้นไหม ก็เคยมี แต่เราก็เห็นความทุกข์คนแล้วเราไปช่วย คือ ไม่เอาดีกว่า มันทุกข์เหลือเกิน คือเราอยู่อย่างนี้เป็นโสด ได้ทำบุญ มีชีวิตอิสระ ช่วยเหลือคนดีกว่า มีความสุขเยอะแยะ อยู่กับเพื่อนฝูงดีกว่า แต่มันเป็นเรื่องของกรรม เรื่องของกรรมเนี่ยเป็นเหมือนลิขิตฟ้าดิน บางคนก็ไม่คิดจะมีเนื้อคู่แต่ก็มีเนื้อคู่ เราก็รู้ลิขิตของเราว่าอนาคตเราเป็นไง เรารู้อยู่แล้วว่า อนาคตเราจะบวชจะพาคนไปปฏิบัติธรรม เรารู้ล่วงหน้า ทำไมเรารู้ เพราะดิฉันนั่งสมาธิ เพราะฉะนั้นไม่มีครอบครัวดีกว่า ตอนนี้ไม่มีความรู้สึกนั้น เพราะดิฉันได้ภาวนาจิต” แล้วยังรักสวยรักงามไหม เจน ญาณทิพย์ เหมือนคนทั่วไป รักสวยรักงาม แต่ร่างกายไม่ใช่ของเราเกิด เราดูแลตัวเองเพราะเราออกสื่อ จะหัวฟูๆ ตัวดำๆเหมือนเก่าไม่ได้ บุคลิกต่างๆ ต้องให้ดูน่าเชื่อถือ” หมอดูดังบางรายรวยเป็น 100 ล้าน แล้วคุณเจนมีรายได้ถึงจุดนั้นไหม เจน ญาณทิพย์ รายได้มาจากการออกโทรทัศน์ ได้รับค่าตัวเป็นเทปๆ ที่รับเปิดกรรมที่บ้านจะเปิดทุกวันที่ 3 ของเดือน ซึ่งตอนนี้รับดูก็เริ่มน้อยลงแล้ว เราอยากเผยแพร่เรื่องกฎแห่งกรรมมากกว่า พรสวรรค์ตรงนี้ไม่ได้มาให้โกยรายได้ ให้มาช่วยคน เขาจะเอาคืนเมื่อไหรก็ได้” ทุกวันนี้มีความสุขจากพรสวรรค์ที่ได้รับไหม เจน ญาณทิพย์ ถ้าบอกว่ามีความสุขเหมือนเราจะโกหก มันก็ต้องมีความทุกข์ เพราะเราเห็นความทุกข์ของคนมากมาย แต่มันก็เหมือนเราได้สร้างบุญอย่างหนึ่งน่ะ เหมือนเราให้ธรรมะ เหมือนเราพูดถึงกรรม อย่างการหาศพคน หรือการหาเด็กที่หายไปเราช่วยเขาได้ พรสวรรค์ตรงนี้เขาให้มาช่วยคน เราก็รู้สึกมีความสุข ที่คนคนนั้นชีวิตเขาดีขึ้น สดใสขึ้น มันก็ได้บุญตรงนี้” ถ้าเลือกได้อยากเป็นคนปกติ หรือมีญาณพิเศษแบบนี้แหละ เจน ญาณทิพย์ ตอนนั้นเคยคิดนะ อยากจะเป็นเหมือนคนปกติ แต่พอถึงจุดนี้ สิ่งที่สวรรค์ให้พรสวรรค์เราเนี่ยเป็นพรพิเศษ เป็นเหมือนตาทิพย์ หูพิพย์ เรารู้สึกว่าสิ่งนี้แหละมันเป็นหน้าที่ ที่จะช่วยเหลือคนให้รู้จักบาปบุญคุญโทษ ให้รู้จักเกรงกลัวบาป” ทุกวันนี้สามารถใช้ชีวิตได้เป็นปกติไหม เจน ญาณทิพย์ เราเป็นคนง่ายๆ ยังเดินดินกินข้าวแกง ไม่หยิ่งยโส ไม่เคยลืมตัว คนเข้ามาขอลายเซ็นยินดีเสมอ ทุกวันนี้ก็ยังทำตัวเหมือนตอนที่ยังไม่มีชื่อเสียง อายุ 30 เต็ม ก็ยังเป็นวัยรุ่นได้นะ เราอายุแค่นี้แต่เราชอบพาคนไปทำบุญ มีช็อปปิ้งบ้างซื้อของใช้แต่น้อย ดูหนังฟังเพลงไม่มีเลย วันหยุดว่างๆ ก็พาคนไปทำบุญไหว้พระ เราอยู่ในเส้นทางพาคนไปทำบุญอย่างเดียว ก็เหมือนข้ามการใช้ชีวิตแบบวัยรุ่นไปเลย” สุดท้ายที่ทำท่าชูหนึ่งนิ้ว ต้องการสื่อถึงอะไร เจน ญาณทิพย์ ท่านี้คิดเอง เพิ่งคิดเพื่อถ่ายปกหนังสือ เหมือนกับว่าเรามีภารกิจที่ต้องทำทุกวัน และเรามีความมั่นใจ มุ่งมั่นที่จะทำ เหมือนเราชี้กรรมคนอื่น อย่างในรายการคนอวดผีดิฉันจะชอบชี้นิ้วว่าอยู่ตรงนั้นตรงนี้ แต่จะชี้ไปตรงๆ ก็จะดูไม่ดีเลยชี้ขึ้น ว่าเรามีภารกิจที่ต้องไปช่วยเหลือคน ต่อไปนี้จะเป็นท่าประจำตัวค่ะ” Source: https://www.posttoday.com/life/healthy/146659

"คนไทยหลายคนรักสบายมากไป สังเกตุได้จาก คนไทยชอบซื้อหนังสือ ทำอย่างไรถึงจะรวยเร็ว" https://www.facebook.com/klaoshow/videos/712673445758922/

เด็กสอบตกวิชาคณิตศาสตร์สองคนนั่งอยู่ตรงนั้น ทั้งสองกำลังคิดอะไรกันอยู่ เด็กชาย ก. "ฉันมันไม่มีหัวมาทางนี้ สอบกี่ทีก็ต้องตก" เด็กชาย ข. "คราวนี้ฉันไม่ได้ท่องสูตรมา คราวหน้าต้องขยันกว่านี้" … ที่ร้านเบเกอรี่ ผู้หญิงสองคนที่เพิ่งได้รับดอกไม้มาจากสามี ทั้งสองนั่งกันอยู่คนละโต๊ะ และทั้งสองกำลังคิดอะไรเรื่อยเปื่อย นาง ก. "สงสัยไอ้แก่จะอารมณ์ดีมาจากที่ทำงานแน่ๆเลย เลือกดอกที่เราชอบเสียด้วย" นาง ข. "ดีอะไรอย่างนี้ เขารักฉันเสมอต้นเสมอปลาย" … ที่ล็อบบี้ของรีสอร์ทริมทะเลแห่งหนึ่ง คู่ฮันนี่มูนสองคู่ต้องมานั่งรอช่างซ่อมแอร์ห้องพักของตัวเองให้เสร็จ เพราะแค่ยกกระเป๋าเข้าห้องพักไปก็เจอแต่ไอร้อนระอุ เจ้าบ่าวสองคนนั่งอยู่คนละมุม เจ้าบ่าว ก. "ทำไมเราซวยอย่างนี้ เลือกโรงแรมได้ห่วยยิ่งกว่าห่วย" เจ้าบ่าว ข....

Source: https://www.facebook.com/tumruenglen/photos/a.1169439283235068/1218269378352058?type=3&sfns=mo

มีแบงค์ 20 ไหม? เธอคิดว่ามันซื้ออะไรได้? ลองสมมุติดูว่าอีกห้าปีข้างหน้า แบงค์ 20 ในมือเธอจะซื้ออะไรได้ ? ยังซื้อกล้วยทอดอยู่ได้ไหม? หรือมูลค่าไม่พอกล้วยทอดแล้ว ? แล้วเธอล่ะ .. อยากเป็นแบงค์20 ใบนั้นไหม? แบงค์ 20 ที่ไม่สามารถซื้อกล้วยทอดได้ … ……… สามวันที่ผ่านมา ได้มีโอกาสมาฝึกอบรม พอดีมันใกล้กับที่ทำงานเดิม และจำได้ว่า หน้าปากซอยที่ทำงานเดิม...

แม้ทุกอย่างจะเปลี่ยนแปลงตามวันเวลา แต่มีสิ่งหนึ่งไม่เปลี่ยนไปนั้นคือ อดีตที่ผ่านไปแล้ว มันจะคงอยู่เป็นความจริงอย่างนั้นไม่เปลี่ยนไป แม้เราจะยอมแลกด้วยทุกสิ่งมันก็จะยังไม่เปลี่ยนแปลง มีแต่เราที่เท่านั้นที่จะจมอยู่กับความทุกข์ ที่ไม่มีวันสิ้นสุด ถ้าเรามัวแต่ยึดไว้ไม่ปล่อยไป แต่ถ้าเราเรียนรู้ว่าอดีตนั้นมันผ่านไปแล้ว เปลี่ยนแปลงไม่ได้...

Source: https://www.facebook.com/607676865948424/posts/2175032369212858?s=100000283618495&v=e&sfns=mo